Serial Experiments Lain

DECODER : Serial Experiments Lain

หนนี้จะขอเจาะลึก (เน้นว่าเจาะ “ลึก” …ควรตั้งสมาธิสูดลมหายใจเข้าออกก่อนอ่าน) เรื่อง Serial Experiments Lain หนึ่งในสุดยอดอนิเมแห่งความงงเต้กตลอดกาลด้วยโครงสร้างเรื่อง, ระเบียบจักรวาลที่ผิดแผก, ปรัชญาที่ใส่เข้ามา, clue ที่ไม่สามารถใช้อิงอะไรของเรื่องนั้นได้แม้แต่ตอนเดียว รวมทั้งภาษาเทคนิคปั่นกะโหลกแบบที่ถ้านางเอกไม่น่ารักไอ้เจ้าของบล็อกมันคง ไม่สามารถทนดูจนจบได้ …แต่ไม่รู้ทำไมชอบเรื่องนี้จริงๆ

ผมอ่านมาทั้งที่แฟนๆ วิเคราะห์เนื้อเรื่องกับ clue ต่างๆบนเน็ต รวมถึง ultimate fan guide หนังสือที่ทำออกมาเก็บทุกประเด็นรายละเอียดที่ปรากฏในอนิเมชั่น แถมตัวการ์ตูนเองก็ดูตั้งแต่ต้นจนจบไปห้ารอบ ก็ค่อยๆเข้าใจเรื่องราวต่างๆขึ้นมาทีละน้อยๆ แต่ยังไงที่หลายๆคนบอกว่าเรื่องนี้ขึ้นกับการตีความของแต่ละคน หรือแม้แต่ clue ต่างๆที่ปรากฏในเรื่องนี้มันไม่สามารถใช้อ้างอิงอะไรได้ เสียงที่ได้ยินก็อาจจะไม่ใช่เสียงของตัวละครนั้นจริงๆ ภาพที่เห็นก็อาจจะไม่ใช่การกระทำของตัวละครนั้นจริงๆ แล้วก็รู้สึกสิ้นหวังกับความคิดที่จะทำ decoder ของการ์ตูนเรื่องนี้ แต่ไหนๆก็เก็บประสบการณ์การตีความเลนมากว่าสี่ปี (ทำหัวบล็อกรูปนี้มาชาติครึ่งไม่มีบล็อกเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็กระไรอยู่) หนนี้จะลองฮึดดูอีกที พยายามรวมรวมข้อมูลเสริมจากท้าย DVD, บทความใน Lain Illustration และ บทสัมภาษณ์ทีมสร้างต่างๆที่ใช้อ้างอิงได้แน่ๆ ตีความแต่ละอย่างที่ปรากฏขึ้นในเรื่องดูครับ

กฎหลักๆของ Serial Experiments Lain ที่ควรเข้าใจเป็นอย่างน้อย
– เรื่องราวต่างๆแท้จริงแล้วเป็นข้อมูลที่ถูกเขียนขึ้น หากลบข้อมูลนั้นทิ้งแล้วเขียนอย่างอื่นทับลงไปก็ถือได้ว่าสิ่งนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากเรื่องไหนที่เราจำไม่ได้ก็ถือว่าเรื่องนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากของเก่าตายไปแล้วสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาแทนก็ถือว่าของทั้งสองนั้นเท่าเทียม กันทุกประการและของสิ่งนั้นไม่เคยตายจากไป
– ความทรงจำเป็นเพียงสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ ไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวเหล่านั้นเคยเกิดขึ้นจริงๆ

ฮารุฮิถูกสร้างขึ้นหลังจากนี้เกือบสิบปีด้วยคอนเซปต์ที่เกือบจะเหมือนกันทุกประการ แต่กลับมีแต่คนบูชาพระเจ้าฮารุฮิ (ก็มันน่ามึนน้อยกว่า) แบบนี้แฟนคลับเลนน้อยใจนะครับ

ศัพท์พื้นฐานสำหรับเรื่องนี้
Wire world – โลกเน็ตเวิร์ค
Real World – โลกแห่งความจริง
Navi – คำที่ใช้เรียก PC
Protocol7 – โปรโตคอลที่ถูกพัฒนาโดยมาซามิ เอริ สามารถเชื่อมต่อ real world และ wire world เข้าด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์

Iwakura Lain

เด็กสาวอายุ 13 ปี เป็นนักเรียน ม.สอง อยู่ครอบครัวบ้านสี่คน พ่อ (นักคอมพิวเตอร์) แม่ (แม่บ้าน) และพี่สาว (นักเรียนม.ปลาย) คบกับเพื่อนกลุ่มเล็กๆที่สนิทที่สุดสามคนคืออาริสุ, จูลี่ และ เรกะ
…นั่นคือความทรงจำที่เลนถูกใส่เข้ามาให้เป็นตัวตนของตนเอง

แต่จริงๆ แล้วเลนคืออะไร?

เลนก็คือเลน เลนทั้งหมดล้วนแยกกันแต่คือสิ่งเดียวกัน นี่เป็นความหมายของเลนหนึ่งเดียวที่เป็น official ไม่มีใครรู้แน่ว่าเลนคืออะไรแม้แต่ตัวมาซามิ เอริเองที่อ้างว่าได้สร้างเลนขึ้นมาเป็นซอฟต์แวร์ผลผลิตจากโปรโตคอล 7 นั้น ก็เป็นไปเพื่อใช้เลนยกฐานะให้ตัวเองเป็นพระเจ้าเท่านั้น เลนที่แท้จริงตื่นขึ้นเมื่อเรสโซแนนซ์ของโลกถูกกระตุ้นโดยโปรโตคอล 7 ของเอริ ดังนั้นอาจตีความได้ว่าเลนเป็นอีกหนึ่งกฎเกณฑ์ธรรมชาติที่โลกนี้สร้างขึ้นมา จัดการเครือข่ายความรู้ (Intelligence Network) ที่ครอบโลกอยู่ (มีการอ้างอิงทฤษฎีเรื่องการรู้แจ้งทำได้โดยการเข้าถึง Intelligence Network ของ John C. Lilly ใน layer9 ) และ wire Lain มีอยู่ตั้งแต่ wire world ถูกสร้างขึ้นมา เอริซึ่งค้นพบเรื่องนี้หลังจากที่เขาแปลงข้อมูลของตนเองเข้า wire จึงไม่สามารถอ้างสิทธิ์การเป็นผู้ให้กำเนิดเธอได้

เลนมีสามบุคลิคเด่นๆ (ไม่นับพวกที่แฮ็ค ID ไปสร้างเลนขึ้นมา)
1. เลนที่เหมือนกับเด็กเล็กๆ (physical Lain) เงียบและค่อนข้างขี้อาย เครื่องแต่งกายค่อนข้างเรียบง่าย สวมชุดนักเรียนตอนไปเรียน, ชุดไปรเวทเรียบๆตอนอยู่บ้าน, ชุดนอนหมีตอนเข้านอน เป็นผลจากการใส่ความทรงจำปลอมๆเข้ามาทำให้เลนมีชีวิตเป็นเหมือนผู้หญิง ธรรมดา

2.เลน ที่ตื่นขึ้น (wire Lain) เป็นผลจากการดึง wire Lain ออกมาโดยโปรโตคอล 7 เลนเริ่มเข้าสังคมเก่งขึ้น แต่งตัวตามแฟชั่น (ชุดที่เห็นบ่อยที่สุดคือเสื้อแขนยาวสีชมพู) มั่นใจในตัวเอง สนใจโลกรอบข้าง กล้าถามในเรื่องที่ควรถาม หากจะให้เลือกตัวตนที่แท้จริงของเลนน่าจะหมายถึงเลนคนนี้

3.เลน ชั่ว (wild Lain) คอยขัดขวางคนที่จะเข้าถึงตัวเลน และมีความสุขกับความลำบากและเล่นสนุกความลับของคนอื่น ไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น และดูเหมือนตาแก่ลามกมากกว่าเด็กสาวอายุ13 (ผมไม่แน่ใจว่าเจ้านี่คือเลน แต่ official เขียนไว้ว่าเป็นบุคลิคที่สามของเลนก็รวมไปด้วยแล้วกัน)

 

Mizuki Arisu

เพื่อนสนิทที่สุดของเลนพยายามชักชวนเลนเข้าสังคม และมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเลน แต่นั่นก็ทำให้อาริสุต้องเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์ชวนหลอนมากมาย ในช่วงท้ายเรื่อง wild Lain ออกอาละวาดเล่นสนุกกับการล้วงความลับคนอื่น ทำให้เลนถูกตราหน้าว่าเป็นพวกถ้ำมอง แต่อาริสุก็เชื่อใจว่าเลนไม่ใช่คนแบบนั้น

อาริสุแอบชอบอาจารย์ที่โรงเรียนอยู่คนหนึ่งซึ่งฮอตในหมู่นักเรียนสาว wild Lain ได้รู้ความลับตอนที่อาริสุช่วยตัวเองโดยคิดถึงอาจารย์คนนั้นไปด้วยแล้วปรากฏ ตัวขึ้นมา ทำให้เธอโกรธเลนมาก จนเลนตัวจริงต้องแฮ็คข้อมูลของเอเลี่ยนออกมาปรากฏตัวให้อาริสุเห็นเพื่อแสดง ให้รู้ว่าไม่ว่าใครถ้าสามารถแฮ็คข้อมูลจาก wire world ก็จะสามารถปลอม ID เป็นใครก็ได้ และอาริสุหวาดกลัวกับความจริงเรื่องนี้มาก แต่ก็เป็นคนเดียวที่คิดช่วยเลนจนถึงที่สุด และเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวหนึ่งเดียวที่ทำให้เลนรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนอยู่ ใน layer12 อาริสุฝ่าสภาพบ้านที่ยับเยินมาถึงห้องของเลน และเตือนให้เลนรู้ว่าเธอมีตัวตนอยู่จริงด้วยเสียงหัวใจที่ยังเต้นอยู่ แต่เอริก็ปรากฏตัวขึ้นเล่นงานทั้งสองคนจนอาริสุเสียสติไป

เลนรู้ว่าหากอาริสุยังคงพยายามเข้าหาตัวเองอยู่แบบนี้คนที่ลำบากที่สุดก็คือตัวอาริสุเอง ในการรีเซ็ตโลกครั้งสุดท้ายเธอจึงลบเรื่องราวของตัวเองออกไปแม้แต่จากความทรงจำของอาริสุ แล้วสร้างบทบาทให้เธอเป็นครูสอนหนังสือและได้คบกับอาจารย์ที่แอบชอบอยู่

Eiri Masami

โปรแกรมเมอร์อัจฉริยะที่เคยทำงานให้กับแล็บทาจิบานะ หลังจากได้ค้นพบโปรโตคอล 7 เป็นผลงานต่อยอดจากงานวิจัยของ ศจ.ฮอดจ์สัน ที่จะสามารถเชื่อมต่อ wire world เข้ากับโลกแห่งความจริงได้สมบูรณ์และใช้มันเพื่อประโยชน์ของตัวเองก็ถูกไล่ ออกจากบริษัทไป เอริฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดให้รถไฟทับเพื่อดึงความทรงจำของเขาเข้าไปใน wire world และเริ่มแผนการตั้งตนเองเป็นพระเจ้าของโลกแห่งนี้

การตั้งตนเป็นพระเจ้าของ wire world นั้นเหมือนกับโลกแห่งความเป็นจริงคือต้องมีคนที่เคารพสักการะตนเองเพื่อพลัง ในการจัดการสิ่งต่างๆในโลกแห่งนั้น ซึ่งสำหรับเอริคือพวก The knights เป็นมือเท้าในการเผยแพร่ทั้ง PHANTOMa และเป็นตัวช่วยให้เลนรับรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของตัวเองและตื่นขึ้น เนื่องจากต้องการใช้พลังของเลนในการยกฐานะของตนเอง เขาพยายามชักจูงให้เลนเชื่อในความเป็นพระเจ้าของตนเอง โดยย้ำว่าทั้งเพื่อนและครอบครัวของเลนต่างก็ไม่ใช่ความจริง คนเดียวที่รักเลนอย่างแท้จริงก็คือตัวเขา แต่เลนก็ไม่สนใจว่าอะไรคือความเป็นจริงอีกต่อไปและปฏิเสธที่จะเชื่อฟังเอริ ในท้ายที่สุด

No matter where you are, we’re all connected.

ประโยคหลักของ Serial Experiments Lain ที่เลนพูดให้คนที่ยิงปืนในคลับไซบีเรียฟังใน layer2 ปกติใช้พูดถึงมิตรภาพและความผูกพันที่ไม่ว่าจะอยู่ไกลกันแค่ไหนใจก็ยัง เชื่อมโยงถึงกัน 😛 ….แต่ในเรื่องนี้ไม่ได้ใช้ความหมายนั้น

มนุษย์หนึ่งคนเป็น individual แตกแยกจำเพาะในแต่ละบุคคลแต่ต่างก็เกี่ยวโยงกัน ความแตกต่างในตัวแต่ละบุคคลทำให้เราเกิดความเป็นตัวตนขึ้น ทำให้เราเกิดความสำคัญในตนเอง (Ego) ขึ้นและยังคงเชื่อกันว่าเราจำเป็นต้องมีที่อยู่ที่เป็นตัวของเรา นั่นคือการรักษาร่างกาย (physical body) ที่เราเชื่อว่าคือตัวของเราเอง แต่แท้จริงแล้วนั่นไม่ใช่ตัวของเราเอง เมื่อมนุษย์ถูกเชื่อมโยงถึงกันแล้วมนุษย์จะสูญเสียความเป็น end point ของตนเองไปเพื่อกลายเป็นเพียงจุดเชื่อมต่อไปยังสิ่งอื่น เมื่อสูญเสีย ego ทั้งคนเป็นที่ยังรักษากายหยาบ และคนตายที่ทอดทิ้งร่างไปแล้วจะอยู่ในสภาพเดียวกัน

เมื่อมีการเชื่อมต่อเหล่าคนตายจะหลุดออกมาจากที่ๆ ตนเองตั้งใจอยู่อาศัยออกมา ณ จุดที่เกิดการเชื่อมต่อนั้น (อ้างอิง : Wired Tale จาก Lain illustration)

Device

แต่ละส่วนต่างๆของมนุษย์ที่เป็นทางออกของปฏิสัมพันธ์ ท้าย DVD ได้อธิบายถึงแต่ละ layer ที่เป็นตัวแทน device ทั้ง 13 ของมนุษย์ดังนี้
Layer 1 (WEIRD) – ตา
Layer 2 (GIRLS) – ปาก
Layer 3 (PSYCHE) – มือ
Layer 4 (RELIGION) – หู
Layer 5 (DISTORTION) – ลิ้น
Layer 6 (KIDS) – เท้า
Layer 7 (SOCIETY) – จมูก
Layer 8 (RUMORS) – ผม
Layer 9 (PROTOCOL) – ท้อง
Layer 10 (LOVE) – ลำตัว
Layer 11 (INFORNOGRAPHY) – หัวใจ
Layer 12 (LANDSCAPE) – หน้า
Layer 13 (EGO) – ทั้งหมด

Accela

ยาเสพติดประเภทหนึ่งที่เด็กนักเที่ยวซื้อจากสาวเสิร์พที่คลับไซบีเรีย ลักษณะเป็นเครื่องจักรขนาดเล็กบรรจุในเจลแคปซูล เมื่อรับเครื่องจักรตัวนี้เข้าไปในร่างมันจะสั่นด้วยความถี่จำเพาะกระตุ้น ให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกมา และส่งผลให้เห็นภาพหลอน ใน layer2 เด็กหนุ่มคนดังกล่าวถูกกระตุ้นประสาทให้มีการสั่นในช่วงเดียวกับความถี่ของ wire world จนสามารถรับรู้ถึง Wire Lain ได้ หลังได้ยินคำว่า “No matter where you are, we’re all connected.” (เลื่อนกลับไปดูความหมายข้างบน) เขาก็เอาปืนกรอกปากยิงตัวเองตายและหลุดเข้า wire world ไป

Tachibana General Lab

บริษัทคอมพิวเตอร์ที่ทำการผลิตคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่านาวีและ Copland OS ซึ่งใช้ในเรื่องนี้เป็นหลัก เป็นบริษัทที่มาซามิ เอริเคยทำงานอยู่ แต่เอริได้ค้นพบโปรโตคอล 7 และใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวบริษัทจึงได้ปลดเขา ออก หลังจากนั้นไม่นานเอริก็ฆ่าตัวตายโดยกระโดดให้รถไฟทับเพื่อดำเนินแผนการของ เขาต่อไป ประธานทาจิบานะรู้เรื่องแผนการของเอริและการมีอยู่ของ The knights เขาจึงสั่งให้ชายชุดดำทั้งสองคนติดตามเฝ้าดูเลน ก่อนจะให้ทั้งสองพาตัวเลนมาพบใน layer7 และเล่าเรื่องราวที่เลนถูกใช้ประโยชน์โดย The knights ให้ฟัง

แท้จริงแล้วการรวม wire world เข้ากับ real world นั้นก็เป็นเป้าหมายของประธานทาจิบานะเช่นกัน แม้ว่าจุดหมายจะคล้ายกับ The knights แต่เขามองว่าวิธีการของพวกนั้นจะขัดขวางแผนการที่เขาวางไว้จึงใช้ให้ชายชุด ดำออกสังหารพวก The knights จนสิ้น แต่สุดท้ายแล้วชายชุดดำทั้งสองก็รู้ว่าถูกหลอกใช้ ใน layer12 ประธานทาจิบานะได้มาพบพวกเขาก่อนส่งเงินให้พวกชายชุดดำและบอกให้พวกเขาหนีไป ยังที่ๆสายไฟและสัญญาณดาวเทียมไปไม่ถึง (ซึ่งมันไม่มีในโลก) หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เห็นภาพหลอนของเลนรวมทั้งพวก The knights ที่ตายไปแล้วหลุดเข้าไปอยู่ใน wire และถูกฆ่าทิ้ง

The Knights

หรือ Knights of Eastern Calculus องค์กรที่ครอบครอง wire อยู่ เป็นที่รวมตัวของแฮ็คเกอร์ฝีมือฉกาจ พวกนี้ต่างพยายาม access เข้า wire world โดยมีเป้าหมายจะรวมโลกแห่งนี้กับโลกแห่งความจริงเข้าด้วยกันเพื่อสร้างโลกใน อุดมคติที่ไร้ความทุกข์ทรมานขึ้นมา

สมาชิกของ The knights ที่ปรากฏตัวในเรื่องมีสามคนคือชายหนุ่มนักธุรกิจ, แม่บ้าน, และโอตาคุคอมพิวเตอร์ ทาโร่ยังเด็กเกินไปที่จะเข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ ส่วนเนซุมิไม่ได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมกลุ่ม เขาได้ทดลองสร้างกล้องติดไว้กับตัวและคิดว่าจะทำให้สามารถมองเห็น wire world ได้แบบเดียวกับที่ The knights เจาะเข้าโลกดังกล่าวได้จริงแต่ก็ถูก The knights ฆ่าตาย

The knights เฝ้าจับตาดูเลนเช่นเดียวกับชายชุดดำทั้งสองคน คาดว่าพวกเขาตั้งใจจะปลุกเลนขึ้นมาตามความต้องการของเอริ แต่หลังจากเลนรู้ความจริงจากศจ.ฮอดจ์สันที่องค์กรนี้ใช้พวกเด็กๆผ่านทาง PHANTOMa ก็ตั้งใจจะหันมาเล่นงานองค์กร the knights จึงสั่งหยุดระบบทำความเย็นของนาวีห้องเลนจนเกิดระเบิดขึ้น แต่ชายชุดดำทั้งสองออกมาเรียกร้องความสนใจให้เลนลงมาด้านล่างทำให้รอดจาก อุบัติเหตุได้หวุดหวิด

สมาชิกขององค์กรทั้งสามคนถูกกำจัดตอนที่เลน เข้าไปใน wire world และดึงข้อมูลของทั้งสามออกมาสู่สาธารณะ ทำให้ชายชุดดำทั้งสองตามตัว the knights จนพบและฆ่าทิ้งทั้งหมด (ตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง ไม่ใช่ความต้องการของเลน เลนเพียงต้องการหยุดยั้ง the knights)

สัญลักษณ์ขององค์กรเป็นรูปเข็มทิศแบบเดียวกับที่ฟรีเม ซอน (องค์กรที่ควบคุมโลกอยู่เบื้องหลังใน real world) ใช้ และมีรูปลิ่ม(หรือไม่ก็ตัวคน) ล้อมอยู่ 14 เล่ม

Psyche

สุด ยอดโปรเซสเซอร์ที่เลนได้รับมาทางกล่องใส่จดหมายที่โรงเรียน ความสามารถในการประมวลผลสูงกว่าโปรเซสเซอร์ไหนๆ ทาโร่บอกว่าแม้แต่คอมมือถือที่เขาใช้อยู่ถ้าต่อโปรเซสเซอร์ตัวนี้เข้าไปก็มี ความสามารถ access เข้า wire ได้เต็มรูปแบบ ด้วยไซคีทำให้เลนเริ่มต้นพัฒนาปรับปรุงนาวีในห้องของเธอจนมีความสลับซับซ้อน และมีความสามารถถึงขนาดเจาะเข้าไปใน wire world ได้อย่างสมบูรณ์ใน layer ต่อๆมาแบบที่ไม่มีใครสามารถทำได้มาก่อนแม้แต่พวก The knights สุดยอดแฮ็คเกอร์ของโลก (คนปกติหลุดเข้าไปใน wire world ได้เพียงบางส่วน และจะปรากฏออกมาในสภาพ device ต่างๆทั้ง 13) ซึ่งคนที่ส่งมาให้เลนก็คือพวก The knights ที่ใช้ให้เลนเจาะเข้า wire world แทนพวกตัวเองนี่แหละ

ภาพ ไซคี (ใช้ติดตั้งบนมาเธอร์บอร์ด) ใน official illust มีอธิบายโครงสร้างในเชิงเทคนิค …ช่างมันเถอะ ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องเท่าไหร่ (ที่สำคัญคือด้วยความรู้คอมพิวเตอร์ระดับอนุบาลวัดลิงขบแล้วกระผมค่อนข้าง มั่นใจว่าจะแปลผิด) ความเร็วประมวลผลสูงสุด 400 MHz, 1.6 Gb RAM คอมผมยังเร็วกว่าเลย แต่การ์ตูนปี 98 สมัยนั้นก็ถือว่าเร็วมากแล้วนี่นะ เมื่อติดตั้งไซคีลงกับเมนบอร์ดแล้วคอมพิวเตอร์สามารถดาวน์โหลดอัตโนมัติโดย ไม่ขึ้นกับผู้ใช้งานพร้อมตัวหนังสือประหลาดที่ลอยออกมานอกจอ เขียนเกี่ยวกับ “The prophecy must be fulfilled” (คำที่มิกะเห็นก่อนถูกลบหายไปนั่นแหละ) ซึ่งมาจากองค์กร The knights (อ้างว่าเป็นประสงค์จากพระเจ้า)

The prophecy must be fulfilled. The knights of eastern calculus shall save my soul, and the software that shall restore humans to their original form will inhibit the brain’s serotonin secretions, taking me to a world without suffering, without pain.

ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของ The Knights นั่นเอง

ทำไมจิสะถึงฆ่าตัวตาย?

เรื่องนี้เปิดตัวด้วยฉากการกระโดดตึกตายของจิสะ โยโมดะ นักเรียนสาว ม.สอง ชั้นเดียวกับเลน จิสะเป็นหนึ่งในคนที่คิดว่าโลกที่ตัวเองอยู่ไม่มีความสุข การทอดทิ้งร่างกายคือทางหลุดพ้น ความตายไม่ใช่การสิ้นสุด และพระเจ้าที่แท้ จริงอยู่ที่นี่ (wire world) หลังหลุดเข้าไปใน wire world จิสะยังคงสามารถติดต่อกับเพื่อนร่วมชั้นทางอิเล็คทรอนิคส์ได้ จนเกิดเป็นข่าวเรื่องการรับอีเมล์จากคนตายไปแล้วและพวกนักเรียนพากันเสีย ขวัญ มีเพียงเลนที่พยายามติดต่อพูดคุยกับจิสะถึงสาเหตุที่ฆ่าตัวตาย และนั่นก็ทำให้เลนเริ่มสนใจเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ขึ้นมา

มีเพียงไม่กี่คนที่ได้รับอีเมล์จากจิสะ ซึ่งล้วนเป็นคนที่เคยพูดคุยกับจิสะมาก่อน สำหรับเลนเคยกลับบ้านด้วยกันกับจิสะหนหนึ่ง จากความที่จิสะพยายามชักชวนเลนมาที่ wire world ด้วยกันด้วยความเชื่อว่าที่นั่นคือโลกที่เป็นความจริงและมีพระเจ้าอยู่ทำให้ เลนเริ่มพยายามค้นคว้าและทำความเข้าใจเรื่องของโลกทั้งสองจนค้นพบสิ่งต่างๆ มากมายกว่าที่จิสะพบ

ทำไมมิกะจึงหายไป?

มิกะเป็นพี่สาวของเลน พูดง่ายๆคือเป็นหนึ่งในคนที่ถูกมอบหมายให้แสดงตัวเป็นครอบครัวของเลน แต่ถึงยังงั้นมิกะกลับแตกต่างจากพ่อและแม่ มิกะมีการติดต่อกับโลกภายนอก มีปฏิสัมพันธ์กับตัวของเลนเหมือนกับเลนเป็นเด็กธรรมดาๆคนหนึ่งดังที่พี่สาว พึงมีแม้จะไม่ได้ดูออกว่ารักน้องสาวมากมายสักเท่าไหร่ หลายครั้งที่มิกะพูดถึงเรื่องการกระทำแปลกๆของเลนให้พ่อแม่ฟังแต่ก็ไม่ได้ รับความสนใจเท่าใดนักเพราะทั้งยาซุโอะและมิโฮะรู้ดีว่าเลนกำลังจะตื่นขึ้น พวก The knights เชื่อว่าการมีอยู่ของมิกะจะทำให้เลนตื่นขึ้นช้ากว่าที่พวกเขาต้องการ จึงส่งสาส์นมาถึงมิกะไม่ว่าจะผ่านทางถ้วยกาแฟหรือประตูห้องน้ำ ขึ้นเป็นตัวหนังสือว่า “Fulfill the prophecy.” ก่อนส่งมิกะคนใหม่ลงมาแทนคนเดิมที่ถูกลบหายไปใน layer5 อย่างไรก็ดีหลังจากที่เลนได้สร้างโลกขึ้นมาใหม่นั้นทุกคนก็ถูกใส่เข้ามา ดำเนินเรื่องราวอีกครั้ง และมิกะก็ได้เป็นลูกสาวของยาซุโอะและมิโฮะในครอบครัวสามคน

เกิดอะไรขึ้นกับพวกเด็กๆ?

เมื่อ 15 ปีก่อน ศจ.ฮอดจ์สันได้ทำการทดลองระบบที่เรียกว่า K.I.D. system ในการทดลองที่เรียกว่า Kensington Experiment ซึ่งจะทำการสูบพลังงานที่เรียกว่าพลังงาน PSI ที่เป็นพลังจิตประเภทหนึ่งพบมากในเด็ก และแปรสภาพเป็นพลังงานอื่นๆ แต่ผลการทดลองผิดพลาดพลังงานที่ว่าเกิดระเบิดขึ้นและเด็กมากมายต้องตายไป ทำให้ศจ.ฮอดจ์สันยุบโครงการนี้ลงและถูกตราหน้าว่า “ไอ้นักวิทยาศาสตร์ฆาตกรเด็ก” อย่างไรก็ดีได้มีคนนำระบบที่ว่านี้กลับมาใช้งาน โดยใช้กับเกมที่เรียกว่า PHANTOMa ทำให้คนที่เล่นเกมนี้ถูกดึงเอาพลังงาน PSI ไปส่วนหนึ่ง, มองเห็นสิ่งที่หลุดออกมาจาก wire world ทั้งที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง (เช่นตอนที่เกมเมอร์เห็นเด็กผู้หญิงวิ่งไล่) และตกเป็นหนึ่งในสาวก (คนที่จะช่วยดึงเอริขึ้นไปเป็นพระเจ้า) ไปด้วย ใน layer6 หลังจากได้เห็นพวกเด็กๆทำท่าสักการะขึ้นไปบนท้องฟ้าเลนได้ตรวจสอบปัญหาโดย access เข้า wire ไปพบกับศจ.ฮอดจ์สันและรู้เรื่องราวทั้งหมดนี้ ซึ่งหลังได้พบเลนไม่นานศจ.ฮอดจ์สันก็จบชีวิตลงอย่างสงบด้วยโรคที่รุมเร้า แล้วนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ระหว่างเลนกับ The Knights

ตอนจบหมายถึงอะไร?

ในตอนท้ายของเรื่องเลนทั้งสองคน (wire Lain และ wild Lain) ได้ต่อสู้กันใน wire world เลนตัวชั่วร้ายยอมรับว่าตัวเองไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่ไม่มีจิตสำนึก ให้ควบคุมได้และแตกสลายไป ส่วน wire Lain ที่กำลังสิ้นหวังกับความโดดเดี่ยวนั้นได้พบกับยาซุโอะคนที่เคยเรียกว่าพ่อ อีกครั้ง พ่อบอกกับเลนให้เปิดฮู้ดออกเพื่อไม่ให้ต้องใช้ชีวิตอยู่แบบปิดตัวเองอยู่ใน โลกส่วนตัวเหมือน physical Lain ที่ผ่านมาอีกต่อไป

 

 

(คำบรรยายฉากดื่มชาจาก Lain Illust.)
“ค่ะ”
เลนพยักหน้าช้าๆแล้วค่อยๆจุ่มเค้กลงในถ้วยชาของเธอก่อนเงยหน้าขึ้นมองยาซุโอะ
ยาซุโอะยิ้มตอบพลางมองเลนด้วยสายตาที่อ่อนโยน
เขาดูแก่ขนาดนี้เลยเหรอ? เลนพยายามนึกถึงตอนที่ยาซุโอะยังเป็นพ่อของเธออยู่
ไม่ใช่สิ แม้แต่ตอนนี้และต่อจากนี้ไปยาซุโอะก็ยังคงเป็นพ่อของเธอ
ไม่ว่าจะด้วยแรงปรารถนาของตัวเลนเอง หรือของยาซุโอะก็ตามที
เธอหยิบชิ้นเค้กขึ้นกัดได้กลิ่นหวานหอม เลนหลับตาลงดื่มด่ำกับรสชาติของเค้กชิ้นนี้
“อา….”
ความหวานหอมของเค้กช่วยปลดเปลื้องความเหนื่อยล้าให้หายไป หลงเหลืออยู่เพียงความรู้สึกอบอุ่น
แสงอาทิตย์ยามเย็นโอบล้อมพวกเขาทั้งสองคนไว้ เลนค่อยๆลืมตาขึ้นมอง
มันเป็นความงดงามที่เลนเคยสัมผัสมาก่อน แต่เธอกลับไม่หลงเหลือความทรงจำเกี่ยวกับมัน
ยาซุโอะที่นั่งอยู่ตรงหน้าถามขึ้น
“อร่อยไหมเลน?”
เสียงอันอ่อนโยนของเขากระทบเข้ากับหู
เสียงของพ่อ
…ช่างอบอุ่น
เลนเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้าก่อนพยักหน้าตอบ “ค่ะ”
ไม่รู้ทำไมที่เลนเคยกลัวเสียงของพ่อ ทั้งที่แท้จริงแล้วมันอบอุ่นขนาดนี้
น้ำตาไหลอาบแก้มไม่หยุด ความรู้สึกที่ยากจะบรรยายนี้อัดแน่นจนถึงกับทำให้เจ็บอก
เลนอยากให้ความเจ็บนี้คงอยู่ตลอดไป
เพราะมันทำให้เธอรู้ ทำให้เธอเข้าใจได้ว่าเธอมีร่างกายของตนเองอยู่จริง
จากนี้ไปความเจ็บปวดที่ผ่านมาจะถูกเก็บไว้เป็นเพียงแค่ความทรงจำของเลนแต่เพียงผู้เดียว
ซึ่งหากเป็นแบบนั้นเลนก็จะมีความสุข

 

ถึงจะเป็นแค่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นก็ไม่เห็นเป็นไร ก็ฉันรักพวกเขาทุกคนนี่นา

ครั้งก่อนเลนรีเซ็ตเรื่องราวใหม่โดยทิ้งไว้แต่ความทรงจำของอาริสุ เพราะเป็นคนเดียวที่สามารถเชื่อมต่อกับเลนได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงความทรง จำ และเป็นคนที่ทำให้เลนมั่นใจว่าตัวเองมีตัวตนอยู่ แต่นั่นกลับทำให้อาริสุเจ็บปวดที่สุดเพราะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด และกลัวที่จะใช้ชีวิตต่อไป ในตอนสุดท้ายนี้เลนจึงยอมลบตัวเองไปจากโลกและความทรงจำของทุกคนเพื่อไม่ให้ คนอื่นต้องเจ็บปวดอีก ทุกคนถูกสร้างขึ้นมาใหม่ตามเรื่องราวที่เลนต้องการ แม้แต่ตัวของมาซามิ เอริเอง หลังจากนั้นเลนก็ใช้ชีวิตเฝ้ามองโลก

 


ตามที่หลายๆท่านพูดกันว่าทุกอย่างในเรื่องนี้ต่างเชื่อมโยงถึงกัน ไม่มีทางที่จะอธิบายเรื่องให้เข้าใจด้วยการบรรยายแนวเส้นตรงอย่างง่ายได้ก็ ขอให้คนที่สนใจลองอ่านดูหลายๆรอบแล้วดูอนิเมซ้ำอีกหนจะเริ่มเข้าใจที่มาที่ ไปของแต่ละจุด ถึงจะไม่สามารถครอบคลุมเนื้อหาและข้อสงสัยได้ทั้งหมดแต่ก็หวังว่าบล็อกนี้จะ ช่วยให้เข้าใจเนื้อเรื่องในหลายๆจุดและเคลียร์ไปอีกหลายปมนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ชีริว

ShareShare on Facebook0Share on Google+0Tweet about this on TwitterShare on LinkedIn0Pin on Pinterest0Share on Tumblr0